![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgM4ikH_bf51GUNrRhyphenhyphenyieOCwAiN-Kk908vEkLrtHoAGPlZ_JNHhUZzQ-kZJxMM8FOybIJ9XuvshwgyD59QHcnL4RuUmdvE5nI3aAUm96rskU-bv_F6_-uArFwl5-CiqxankAZh1CXuv4t-/s200/DSCF4128.jpg)
สงกรานต์นี้ ทริปเบาๆ กับเป้หนักๆ เป้าหมาย ยอดเขาพ่อตาโชงโดง ที่อยากไปมาหลายปี...ในที่สุดวันนี้ก็สำเร็จ
จุดหมายไม่ไกลเกินกำลัง
ทริปเบาๆ กับเป้หนักๆ
จากการนัดหมายกับเพื่อนหลายๆ คนว่าจะไปเยือนระนอง ลิ้มลองของอร่ย ที่เคยพาไปชิมเมือสงกรานต์ปีกลาย
ก่อนเดินทางสองวัน ปรากฏว่าสมาชิกถอนตัว 100%(เรียบ) เหลือเราอยู่คนเดียวทำไงดี ไม่น่ามัวแต่รอคนนั้น
คนนี้เลย(แอบบ่นนิดหนึ่ง) แล้วนี่ตั๋วก็ยังไม่ได้จองเอาไงดีหว่า..เราก็มีงานยุ่งเหมือนกันนะ จะล้มเลิกดีไหม?
"ไม่"คำตอบเด็ดขาดจากใจ ตั้งใจแล้วต้องไป..ไหนจะบอกเพื่อนๆ ที่ระนองไว้แล้วด้วย ดีเหมือนกันรอบนี้จะได้ขึ้น
เขาพ่อตาโชงโดงเลย..
แล้วเอาไงดีหว่าจะไปซื้อตั๋วรถที่สายใต้ก็เห็นจะไม่คุ้มเพราะค่ารถไปกลับก็ร่วม 200 แลกกับค่าตั๋ว 400 กว่าๆ งั้น
เสียงเอาข้างหน้า(วันเดินทางเลยแล้วกัน)
ถึงวันเดินทางจริงๆ เอาแล้วไงรถเต็มหมด จริงๆ ก็ควรจะได้ที่นั่งจากตั๋วรถเสริมนะ แต่ว่า...พอได้ยินคำถามจากคนขายว่า"น้องไปกี่คนค่ะ" "คนเดียวครับ"ตอบไปใจหวิวๆ"แล้วน้องข้างหลังไปกี่คนค่ะ" "สองค่ะ"ได้คำตอบแล้วครับ
สองที่นั่งสุดท้าย ถูกจัดให้คนมีคู่ไปแล้ว(สองคนที่เข้าแถวต่อจากเราไปซะงั้น) ตกรถสิแบบนี้
ความหวังยังไม่หมดเมื่อคนขายบอกว่าเอาที่นอนคนขับรถไหม นั่งได้สองที่ สบายกว่าด้วย (ถ้าเป็นยามปกติ รถป.1
หรือ VIP ที่นอนคนขับนี่สบายไม่ใช่น้อย แต่นี่รถเสริมไม่เสี่ยงดีกว่า) "ไม่ครับ "คราวนี้ชัด 100% ตกรถแล้ว
ไงต่อดี
เดินวนไปวนมา..หารถต่อดีกว่าเผื่อมีรถเสริมอีก...(ไม่มีรถผ่านระนองแล้ว) ลองดูรถที่ไปชุมพรก็ได้ เด๋วค่อยต่อ
รถไปอีกที ก็ยังดีกว่านอนเช้าอยู่สายใต้ ได้รถเสริมสมใจ แต่ราคา 460 บาท
ถ้าใครไม่เคยนั่งรถเสริมช่วงเทศกาลขอบอกเลยว่าความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อนนั่งรถ VIP- ป.1 คุณ
หวังว่าทุกคนจะไม่ปิดช่องแอร์ของตัวเองหมดเพราะมันหมายถึงว่าถ้าคุณเปิดช่องเพียงนิดเดียวแอร์ทั้งลดจะวิ่งมา
ออกที่นั่งคุณทันที และมันจะยะเยือกเกินบรรยาย
แต่เมื่อคุณนั่งรถเสริม(ป.2)..คุณจะเฝ้าคอยภาวนาว่า แอร์รถคันนี้จะมีพอให้ทุกคนได้ใช้หายใจและไม่ร้อนจน
ประสาทแดกกันทั้งรถ...
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgHrK7hyphenhyphend50tHDWim6-lHxl2nB50yTPb3FDOBmb76lQqEbqRUzqIzwUpEQ2lJADv3Rdntoxa8bkmFlFrVEXwo43qdsNiYi2GDheZAG5TUS4HuxGpa0d7TRLU9hgSYj1KywWJO4kIBwExp4i/s200/DSCF4131.jpg)
เช้านี้ที่ชุมพร..เจอมอร์ไซด์รับจ้างเรียกค่าบริการ 60 บาท กับการไปส่งเพียงระยะทางไม่ถึง 500 เมตร โอ้ช่างฉวย
โอกาสเอาเปรียบกันซะจริง...
จากชุมพรไประนอง ได้รถเที่ยวแรกของรุ่งกิจทัวร์ถึงระนองเจ็ดโมงนิดๆ ก็แวะเข้าอาบน้ำร้อนที่รักษะวารินดูอีกที
30 กว่าสายเพราะพี่อ๊อนำรถกะบะมารับแต่ไม่เจอ ความผิดนี้อยู่ที่ผมเพราะไม่ได้บอกว่ามาคนเดียว(ธรรมดาพี่ก็
น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง)
สรุปว่าผมต้องนั่งไปไปที่ร้านเอง เพราะพี่อ๊อดกลับไปแล้ว..ไม่เป็นไร เราก็สามารถไปเองได้...ก็จับรถ
สาย3(ระนอง-สะพานปลา) ก็เตรียมเอียงตัวหลบน้ำที่ชาวต่างชาติสาดเข้ามา ที่ระนองครึกครื้นด้วยชาวต่างชาติครับ
ส่วนใหญ่เหมารถออกมาเล่นสงกรานต์กันเลยทีเดียว
"ใช้ ว เป็นไหม"คำถามแรกที่เปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ของผม
"พอได้นิด หน่อย" "งั้นเด๋วไปไปใช้ 1 ตัว ไว้ได้ติดต่อกัน หลังจากนั้นทั้งวันก็ติดท้ายรถ มอร์ไซด์/กะบะ ไปกับเครือข่ายตาสับปะรดระนอง เล่นเอาแดดเผาซะดำ ก่อนจะไปนอนที่ศูนย์วิทยุชลแดนซะหนึ่งคืน
ระหว่าดูปลาก็ใช้ ว ติดต่อ ทีมกะเปอร์ ในที่สุดก็ติดต่อได้ กะเปอร์ 80
หลังจากคุยกันจนได้ความ ก็อาสาให้ผมซ้อนมอร์ไซด์ ไปส่งถึง อ่างเก็บน้ำบ้านหินขาว(คือรถสามารถเข้าได้แค่นั้น)
ทางจากนั้นเป็นทางใต่ภูเขา ต้องใช้ 4x4 หรือวิบาก ในการเดินทางครับ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiViJ4DhhqAN8364ZWRaZRm3YHv38QtOG-VZGTFUZyUtxAe7TWuNlZCHGBUOP-qFHYCTceX64A8ptNzRVpkV7sYK1TB5GcyN9RIx9rcENZJF1dalq-ry0ieIQRgS1mZwWn_Hj0gj9GzGCex/s200/DSCF4132.jpg)
หลังจากเดินตามทางได้ระมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีรถจากตัวอำเภอเข้าหมู่บ้านผ่านมา
จอดรถถามว่าจะไปไหน.. พอบอกว่าจะไปขึ้นเขาพ่อตาโชงโดง ก็เล่นเค้างงกันใหญ่
"มาคนเดียวเหรอ" "คนเดียวครับ"เป็คำตอบที่เรียกความอึ้งได้เป็นคำรพสอง
เค้าบอกว่า ทางมันเดินยากนะไม่มีใครเค้าเดินคนเดียวกันหรอก แต่ผมยืนยันว่าผมเดินได้้ สอบถามข้อมูลมาแล้วมั่นใจว่าสามารถเดินได้..
เอ้าถ้าตั้งใจอย่างนั้นก็ขึ้นรถก่อน จากนี้ไม่บ้านหินกลม อีกหลายกิโล
ผมกล่าวขอบคุณแล้วกระโดดขึ้นไปเบียดกับคนอื่นๆ อยู่กลังกะบะ...
นั่งโยกหัวสั่นหัวคลอนไปตามทางจนถึงหมู่บ้าน เอ้ยก็ไกลจริงๆ ๆตามที่เค้าว่านะ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgAgJfaDsGecrkPGjalm5gKaUBYrPuoW8Cjs22k9TDYZBbyDR6Kj99g8EEH5s2dubrw7DvAll1VMutSrDTSu5BAC4Yo8gJ2OQ3xNXZi6GkeLUSU7E_EAvmEM8OlfS6pFzbTvDG9zERjmPs/s200/DSCF4146.jpg)
มาถึงบ้านหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นบ้านเจ้าของรถกะบะที่ผมอาศัยเข้ามา...คุยกันจนได้ความว่า สง่า เป็นทีมงานของกลุ่มท่องเที่ยวต้นน้ำพะโต๊ะ ซึ่งก็ถือว่าโชคดีเพราะผมเคยเดินป่าร่วมกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ staff ล่องเก่งพะโต๊ะ มาหลายทริปตอนอยู่ระนอง
มาเจอคนที่ทำงานร่วมกับกลุ่มเดียวกัน คราวนีพอจะคุยกันได้ง่ายละ
ประเด็นก็คือสง่าเค้าเตือนผมว่า"ป่าใต้ไม่เหมือนป่าที่อื่นนะ ไม่มีคนเดินเดือนเดียวทางก็ปิด เทรลก็รกจนมองไม่รู้จักแล้ว.."
ใช่ครับที่สง่าบอกผมก็เหมือนกับที่ผมเคยบอกหลายๆ คนมาหลายๆ ครัง ผมเข้าใจดี...เพราะผมก็มีประสปการณ์การเดินป่าใต้มาพอสมควร
ก็เป็นอันว่า พอจะวางใจกันได้ระดับหนึ่ง เพื่อให้ชัวร์กว่านั้นสง่าให้เบอร์ติดต่อกับผมไว้ และบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรมาถามได้
ผม ก็ถามสง่าในเรื่องจุดสังเกต เทคนิคการเดิน.. สง่าอธิบายจนผมมั่นใจว่าสามารถเอาตัวรอดได้ ก็เลย ขอตัวออกเดินทางเพราะอยากไปให้ถึงก่อนค่ำ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggkDo9CK8cPPkgQoRkjPvUc09opM5iL_midWnjtJ3VyZOrufmlu0ffkjZfUDb6Fhovj2PV57rht1_hVVqy-sULpIAXzEUu9C-J6zIfftmYCyirOv0V45zkpKuustcfQ4BfPG6ddg6IENIU/s200/DSCF4143.jpg)
จุดสังเกตุและเทคนิคการเดินในการขึ้นยอดเขาพ่อตาโชงโดงจากบ้านหินกลมคือ
การเดิน ส่วนใหญ่จะวนซ้าย เพราะยอดเขาอยู่ในทิศทางที่อยู่ซ้ายมือของจุดเริ่มเดิน(ไร่ของสง่า)
การเดินตลอดทางไป ให้มุ่งซ้าย ขณะเดินทางขวามือจะสูงว่าตลอด(เดินไปตามไหล่เขา)
จุดสังเกตุ..ให้สังเกตุเชือกฟางที่จะมีผูกไว้เป็นระยะๆ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhkr0WBe34qT9ARNf-yuK6Ym7HWgDNN95co6r9oJkVTPK77LHejzTjYUiD6f5j1UljmFul-KsSI2Yn-AE8xaD4k1VKJz2ngvX_iDPnINku1Bdw0OelNecXadXeabnfjprIITeCTraHLgDME/s200/DSCF4147.jpg)
อาศัยสังเกตุตามที่สง่าบอกแม้จะ งงๆ บ้างเพราะเชือกฟาง ไม่ได้มีจุดต่อจุดให้เห็นตลอดเวลา บางช่วงก็หลายไป ช่วงใหญ่
แต่ในที่สุดก็ขึ้นถึงสันเขาตอนหนึ่ง พอสบายใจขึ้นละ ต่อจากนี้ คงไม่ไกลเท่าไหร่(คิดเอาเองว่าน่าจะได้เกินครึ่งทางแล้ว)
อีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง หินสลัก "พอตาโชงโดง" รู้สึกได้เลยว่า ความสำเร็จของการเดินทางครั้งนี้ เกิน 80% แล้ว..เหลือแค่ไปที่ตั้งแค้มป์ นอนเก็บความสดชื่นสักคืน ค่อกลับไปเผชิญปัญหาอื่นๆ ต่อ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTu3ZKTo5ZLNdPZaRQh6Qr680AFHhBHyKm_2EutGM9GX2DWvrgLrKpt7ieC1Joash1q-8bN7lNOG1fUmTuZ0XW23WqqIto12jhVwasQZyLXHx9ilMYhtEAe5GgYxFgIRvH5ykE7acbZ2Jt/s200/DSCF4156.jpg)
บ่ายสามกว่าๆ ใช้เวลาเดินทางรวม 2ชั่วโมงครึ่ง นิดๆ
เร็วกว่าเวลาที่คาดการไว้ครึ่งชั่วโมง เพราะไม่รู้ระยะทางและเป้าหมาย
มีเวลาเหลือ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศซะก่อน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhi5B9CukfjEluxKSEANGOjEZoZQKRKFvodNMnjJHV1VO9BfnxOrvwQFXOxmD7bNidXqbZlokyJl387Un7uajL8upiDON5wFCaKdGvtOw73fNQxjHSuEohg3dSDxEN3DRLF6V4flztb2g47/s200/DSCF4186.jpg)
ชมวิวพอแล้วก็ได้เวลา หุงข้าว ทำกับข้าวไว้รองท้องแล้ว
ข้าวที่หุงมื้อนี้เป็นข้าวกล้อง...
หุงโดยใช้กระทะ แทนหม้อ เหตุผลง่ายเพราะมันจะได้ร้อนและสุกไว ทานคนเดียวแค่ใช้กะทะก็พอแล้ว (ประยุกต์นิดหน่อย)
ผลงานที่ได้อย่างที่เห็น
ต่อไปก็กับข้าว...
กับข้าวมื้อนี้เป็นหมู ปรุงโดยใช้เนื้อหมูสามชั้นที่ซื้อมาจากตลาดกะเปอร์ครับ
แบ่งครึ่งหนึ่ง คลุกเกลือแล้วก็ ตั้งไฟเลย
ไม่ต้องใส่น้ำมันอะไรทั้งสิ้น วิธีนี้ถ้าหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เรียกว่าผัดเค็ม..แต่นี่เราใช้ชิ้นใหญ่เลย
เอาไว้กินง่ายๆ
เสร็จแล้ว...อาหารที่ได้จากผีมือการปลุงของตัวเอง
![ยิงฟันยิ้ม ;D](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_tQGSfKbYeacshUV4dJFo7Ej3_pFeCjSsI3Jcq80LyJsmvlOi0pLzE_zNGGpkP_oMVlWD4g6OREA1Q3a5UgL4zzDRHts_qXb0fFnLVys-bnLdpdTfE3FNzUxEPSUuKW2dw=s0-d)
ข้าวกล้องหอมๆ เนื้อหมูร้อนๆ กรุ่นด้วยกลิ่นควันไฟ...
อ่อ...สำหรับใครที่สงสัย ทริปนี้ไม่มีแก๊ส ไมีตะเกียง มาใช้ชีวิตลำบากสักหน่อย..ด้วยการหุงข้าวทำกับข้าวกับฟืน
แต่ขอใช้ไปแช็กนะ...
ก็..ไงดีละ
![ตกใจ :o](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_vPQ9wPUTYdsNX91bCOy2E-vtCjxMymiI5oq5HT_76XNBo33e_6_3DVgL_g55DMtZeuRbOUJgjSZQKyydAGv6FA4YtfB7vyZ93C4Iux_89Vw5RcevuxTRPtAP2JUDBtvLk7skw=s0-d)
แบบว่าช่วงหนังๆ เวลาไปเที่ยวที่ไหน เราก็จะติดความสะดวกสบาย ใช้แก๊สบ้าง สั่งอุทยานบ้าง
หลายๆ ที่ก็ไม่อนุญาติให้ก่อกองไฟ หรือใช้ฟืน
บางทริปก็ก่อไฟไม่สะดวก จึงติดแก๊สไปด้วย ก่อไฟเฉพาะไล่แมลง หรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น
ทริปนี้ ก็เลยขอจัดเต็มซะหน่อย (จริงๆ ก็ยังไม่ถือว่าเต็มนะ ยังไม่ถึงหุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่) ไว้ลองสักทริป
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLq0Pzkin7MWMqkEKD1a0Oe1CxAqFhjpZVHgKYtlbOZ2ka-ygxjzh4xLtGAfKSWQiUfQBUXW-SomjdNgKiurTRWR2qvqdIyrqk0KK23pr8lub_qsbOEVqW_vDvjeS_23Sgt-E2E0GcsEQn/s320/DSCF4221.jpg)
ที่ซุกตัวนอนคืนนี้..
เปลประจำตัว
ไฟล์ชีต
ถุงนอน summer camp
และอุปกรณ์สื่อสาร "ว" สีแดงที่ได้จากท่านระนอง 306 มาใช้ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มตาสับปะรด ระนอง
คืนนี้อากาศหนาวทีเดียว..สิบองศาต้นๆ เอง
ขอให้ฝันดีกันทุกคน
เช้ามา หมอกเต็มอย่างที่เห็น
หมอกหนามาก..
เช้าวันนี้สดชื่อจริงๆ อากาศเย็นสบายดีจังเลย
![ยิงฟันยิ้ม ;D](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_tQGSfKbYeacshUV4dJFo7Ej3_pFeCjSsI3Jcq80LyJsmvlOi0pLzE_zNGGpkP_oMVlWD4g6OREA1Q3a5UgL4zzDRHts_qXb0fFnLVys-bnLdpdTfE3FNzUxEPSUuKW2dw=s0-d)
ตั้งแต่มายังไม่ได้ถ่ายรูปเหมียวๆ เลย
เหมียวๆ กับอากาศหนาวๆ และสายหมอก
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgv8vx_WlNit_9JosTMHxA4U2kT-pV2OXA45fzPcocPBE1-x1MT6nHhIp5a2RyckI4KjuJ4MbDoF7zhO-j9ePO-_QW97eMpKLQVnYGS9wv3LM9urqGMuqMyndgdDpFZuGxUOJe3EvwwUlCw/s320/DSCF4208.jpg)
ขากลับลงมา มีสิงโตสยาม...ให้เก็บภาพให้ชื่นใจ...
นึกว่าจะไม่เจอดอกซะแล้ว ยังพอมีให้เห็นดอกบ้างชื่นใจจัง
ดอกที่ถ่ายได้นี่ อยู่บริเวณใกล้ยอดเขาพ่อตาโชงโดง
ใครมาเดิน...พ่อตาโชงโดงอย่าลืมสอดส่ายสายตาหา สิงโตสยามนะครับ ถ้ามาเดินช่วงเดือนเมษาไม่น่าจะพลาดที่จะได้ยลโฉมดอก
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhyoSZGPfH5xPimi1z2yrPQJquBbb44cp8CMkCn6BHrzaNsCvvx7MTNXSmRGfISYejdVkUHNhv_soEJFAIl3cluZ1tZROCK-UlbEDTyRgxKsBEgQbYqB30DRYjdib9yabROUvqAQia_scMg/s320/DSCF4142.jpg)
ลงมาถึงหมูบ้านหินกลม ใช้เวลาเดินขาลง ชั่วโมงครึ่ง...มากว่าที่กลุ่มอื่นทำนิดหน่อย.
เหตุผลเดียวกับขาขึ้นคือเดินคนเดียว
เห็นผลที่ต่างกับขาขึ้นคือ รู้เป้าหมายแล้ว.. ไปเรื่อยๆ ก็ได้ หาดูอะไรสวยๆ งามๆ ไปเรื่อยๆ
ลง มานั่งจิบกาแฟ คุยกับผู้ใหญ่ที่อยู่ในสวนอีกสองคนร่วมชั่วโมง ใกล้ๆบ้านของสง่า พอเดินต่อมาถึงบ้านแรกของหมู่บ้านปรากฏว่า ท่าน"กะเปอร์ 80 "และ "กะเปอร์ 81" มารออยู่ร่วมสองชั่วโมงแล้ว..
นั่นเพราะตอนนี่ก่อนจะละได้คุยกันผ่าน "ว" บอกว่าจะลง ท่านก็บอกว่าจะมารอ แต่ไม่นึกว่าจะมาเร็วขนาดนี้
ที่ท่านมารอที่บ้านหลังแรกเพราะ เลยไปจากจุดนี้ไม่มีสัญญาน...ทำให้คลาดจากกัน..จนต้องเสียเวลารอ
ผมไปอาบน้ำคุยกับท่านกะเปอร์ 80 อยู่หลายชั่วโมง ก่อนที่ท่านจะไปส่ง เพื่อต่อรถกะเปอร์เข้าเมือง
คืนต่อมาผมก็ไปนอนอยู่บานเพื่อนเก่าสมัยอยู่ระนอง บ้านบอย เจ้าของร้าน"บอยแอร์" ที่เคยทำงานร่วมกัน
รุ่งขึ้นก็ทัวร์ ขับมอร์ไซด์ทัวร์เมืองระนอง ก่อนขึ้นรถกลับกรุงเทพ ในตอนเย็น