วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แดนฉิมพลีที่ภูเมี่ยง ตอน๓ ความประทับใจ

วันนี้เราเริ่มออกจากแหล่งน้ำแล้ว...
ลืมบอกไปว่าที่พักเมื่อคืนคือจุดที่ใกล้แหล่งน้ำที่สุด ของการเดินช่วงแรง...จากนี้จนเลยยอดภูเมี่ยงไป เราจะไมเจอแหล่งนี้อีกเลย จะเจออีกที ตอนขาลง ในช่วงบ่ายๆ ของวันนี้
สำหรับคนที่ต้องการจะขึ้นไปนอน บริเวณยอดภูเมี่ยง(แดนฉิมพลี) ลูกหาต้องลงไปตามร่องเขาเพื่อ รองน้ำจากแหล่างน้ำซับที่อยู่ต่ำลงไปจากยอดภูเมี่ยงพอสมควร
เพียงแค่เริ่มเดินทาง เราก็แยกกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม ผมอยู่ในกลุ่มแรง คอยตามดูแลสาวๆ

พงษ์ วัต อยู่ชุดหลังคอยคุมบรรดาช่างภาพประจำทริปของเราให้รักษาเวลา
ตัดขึ้นเนินปราบเซียน ช่วงสั้น ๆ เพียงแค่ 1500 เมตร ที่ชันยิ่งกว่าที่ผ่านมา

เมื่อวาน..ทำเอาหลายๆคน เดินได้ 4 ก้าวหยุด 5 ก้าวพัก แม้จะเชื่องช้าไปบ้าง..แต่ว่าทุกคนก็ยังคงทำเวลากันไปด้วยดี พอพ้น เนิน 5 มาได้ ในช่วงเนินที่ 6 เราก็เข้าสู่การเดินไปตามสันเขา มีลมโชย เย็นๆ มาเป็นระยะ ในระหว่างเดินผ่านเนินที่ 7 เหิรเวหา กลับมาเจอทางชันอีกช่าง แต่ พอขึ้นมาถึงข้างบนได้ก็สบายละ.. พักทานข้าวกันที่เนินที่ 8 รอแล้ว รอเล่า กลุ่มหลังก็ยังไม่ตามมาซะที ก็เลย เดินล่วงหน้า เก็บ 4 ผาที่เหลือก่อนละ
ผาที่ 1 ผาเริงรมย์ อยากให้ชม tresenter ทั้งสองของเรานะครับว่าเริงรมย์ ขนาดไหน... ตั้งแต่ผาเริงรมไป เราจะได้เจอ ดอกลิ่นลี่ป่าไปเป็นระยะๆ ตลอดทาง จนถึงแดนฉิมพลี เป็นบริเวณที่ มีดอกลิ่นลี่ให้ชมตลอดทาง ระหว่างนั้น
ผาที่ 2 ผาแดง จุดเด่นบริเวณนี้คือ หินมีสีแดงเข้ม จัดจ้านดีตัดกับไอหมอกที่ลอยมาปะทะเป็นอย่างยิ่ง
แล้วก็ถึงเวลาแนะนำผาที่ 3 ผาชมหมอก..จุดนี้เป็นจุดที่สวยมาก...เหมาะแก่การนั่งพักเหนื่อยชมสายหมอก และทิวทัศย์เป็นอย่งยิ่ง
และสุดยอด ก่อนถึงยอดสุด..ผาที่ 4 ผาวัดใจ..
มีแต่เพื่อนๆ ในทริปโวย...จะมาวัดอะไรกันตอนนี้..
เพราะที่ผ่านมา ยังไงซะข้างหน้าเราก็จะผ่านไปให้ได้ แล้วมันก็ไม่เกินความสามารถอะไร สุดท้าย ยอดภูเมียงก็เพียงให้เราพิชิต..
พลาดไม่ได้กับบรรยากาศการถ่ายรูปคู่กับป้าย "ผู้พิชิตยอดภูเมียง".. เพราะเราตั้งใจไว้แล้วว่าครั้งเดียวในชีวิตที่ มาพิชิตยอดภูเมี่ยง..เมื่อภาพที่ได้เพียงพอ..ไปต่อกันที่แดนฉิมพลี
ณ จุดที่พักนี่เอง เรานั่งรอสมาชิก ร่วมทริป ชุดหลัง ร่วม 2 ชั่วโมง
นั่งรอตั้งแค่ บ่ายโมงนิดๆ กว่าเพื่อนๆ จะมาถึงกันก็ เกือบบ่าย 3 แล้ว
แย่ละ..ทางเดินจากนี้ อีกไกล มาก กว่าจะถึงที่พักของเรา ที่น้ำตก ...จะไปถึงทันไหมเนี้ยะ...
เมื่อเราเจอครบทีม ถ่ายรูปร่วมกัน ... ก็เริ่มกำหนดแผนการเดินทางกันทันทีแผนใหม่ตอนนี้กำหนดว่า
พงษ์ จะคอยดูแลชุดหลัง
หวาน วัต คุมสาวๆ ชุดหน้า...
ผมคอยประกบดูแลพี่เจี๊ยบเป็นพิเศษ..
ที่ต้องแบ่งขุมกำลังเช่นนี้เพราะทางเดินต่อจากนี้ อีกไกลมาก และเราต้องเร่งทำเวลากันแล้ว
ซึ่งแต่แต่ละกลุ่มก็ เดินไปด้วยกัน แต่แยกหน้าที่อิสระต่อกันเพื่อให้ถึงเป้าหมาย
ผมสังเกตุความผิดปกติหลายอย่าง ที่บอกให้ทราบว่าพี่เจี๊ยบ ไม่ชำนาญในการเดินป่า...จนทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องแนะนำในการจัดและรัดเป้ให้กระชำ การเลือกตำแหน่งวางเท้าในการเดินทางชัน แต่กระนั้น พี่เจี๊ยบก็ยังตกในการเดินได่ต้นไม้ช่วงหนึ่ง ทำให้สุดท้ายผมต้องตัดสินใจ ดึงเชือกออกจ้าเป้เพื่อให้พี่เจี๊ยบใช้ดึงรั้งในการลงทางชันที่ดงกล้วย เพระ กลุ่มหน้าได้เดินและลื่นจนแม้แต่ผมเองยังหาจุดวางเท้าลำบาก
ซึ่งก็ทุรรักทุเล พอสมควรแต่เราก็ผ่านไปได้
ในช่วงของการเดินตามสารธารในป่า พี่เจี๊ยบเริ่มเดินได้ดีขึ้น จนกระทั่งตามทันสาวๆ ที่จุดพักตอนหนึ่งริมน้ำตกในยามใกล้พบลค่ำเต็มที..
ณ จุดนี้.เรารื้อเสบียงออกมาแจกจ่ายกันกิน...และเปลี่ยนแผนใหม่
โดยครั้งนี้เราแยกเป็นสองกลุ่มผมรีบไปกับชุดหน้า
พงษ วัต อยู่กับชุดหลัง เพราะทั้งสองมีทักษะพอจะดูแลเพื่อนๆ ได้...และมีโอกาสที่ต้องเดิน night trail กันแน่ แต่นุ๊กไม่เคยแม้จะเดินป่ามาก่อน มีพี่ลูกหาบดูแลเป็นพิเศษ ด้วยความพยายามในการทำเวลา เราถึงจุดวางแค้มป์ในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม และเร่งรีบดำเนินการจัดเตรียมที่หลับที่นอน..และหุงหาอาหาร ไม่นานนัก กลุ่มหลังก็ค่อยๆ ทยอยกันตามมา..ด้วยการใช้แสดงไฟฉายเป็นเครื่องนำทาง...
ตอนดึกของคืนนั้น ..ฝนแทลงมาทำให้บางคนได้นอนเตียงน้ำ..หรือไม่ก็ย้ายตัวมาเป็นปลาทู..
เข่งปลาทูซึ่งอยู่บนหัวเต้นท์ที่ผมนอน บางขณะก็มีชิ้นส่วนหนักๆ ของใครบางคนที่..ไหลมาตามพื้นเอียงผมต้องดันออกเป็นระยะๆ
แล้วเช้าวันใหม่ก็คืบคลานเข้ามา..จากการสำรวจความเสียหาย ปรากฏว่า ปลาทูท่านใดไม่ทราบ ทับเสาเต็นท์ผมจน แตกไป 1 ท่อน (คราวหน้าไม่มีเต้นท์ใช้แล้วสิ ) แต่ไว้ค่อยแก้ปัญหากัน.. วันนี้เราต้องเดินอีกไกลกว่าจะออกไปพ้นเขตภูเขา
พอเริ่มออกเดินทางก็เจออุบัติเหตุเล็กน้อย คือชุดหน้าเดินไปกระทบเข้ากับรังแตน โชคยังดีที่คนที่เดินชนคืนตั๊มซึ่งใส่เสื้อแขนยาว คลุมฮูตเสื้อแจ๊กเก็ต ทำให้โดนไปไม่มากนัก แต่ก็กระทบถึงเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านจุดนั้นต้องตัดทางใหม่ ซึ่งต้องวกขึ้นสุง ปีนทางชัน เพื่อเลี่ยงเตนที่แตกรัง เราพักทานอาหารเที่ยงที่จุดหนึ่ง และตัดออกสู่ทุ่งโล่งและผ่านนาขั้นบันไดและไร่ของชาวบ้านเพื่อออกสู่ถน
กว่าจะ..อาบน้ำชำระร่างกาย และเล่นน้ำเพื่อพักผ่อน..เราออกจาก ที่ทำการฯ หน่วยคลองตรอนก็เย็นมากแล้ว
แต่การเดินทางของเรา ยังอีกไกล ระหว่างทางกลับกรุงเทพ ยังมีอะไรให้จดจำ อีกมาก ขอฝากให้ไปติดตามดูภาพกันในบอร์ดนะครับ http://www.jaikonjaunt.com/board/index.php?topic=153






ไม่มีความคิดเห็น: