วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ภูสอยดาว อุตรดิตถ์







บันทึกการเดินทาง เที่ยวชมภูสอยดาว ในฐานะ staff ของทริปอย่างเป็นทางการ






10 ชิวิตลูกทัวร์ กับการเดินเก็บความงามในธรรมชาติ ก่อนการเดินทาง



3 วัน 2 คืน แห่งประสปการณ์ความงาม ของธรรมชาติพันธุ์ไม้ บนยอดภู
linkบันทึกการเดินทาง

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เขาสอยดาวใต้ จันทบุรี


เดินป่าเขาสอยดาวใต้กับสมาชิกเท้ากีบ
ประสบการในการเดินทาง สุดประทับใจ กับการเดินป่าฝ่าไอหมอก หยอกไอฝน...
เก็บภาพเห็ดสวยๆ ท่ามกลางป่าใหญ่อันชุ่มชื้น








































วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชวนไปลำบาก ตากลมหนาว ชมเดือนดาว ที่ไทรทอง

บันทึกเพื้อเจ้อทริปลำบากตาลมหนาว

ตามที่วางแผนความลำบากไว้ ว่าจะเดินทางโดยใช้รถประจำทาง....

เริ่มจาก หมอชิต2-ชัยภูมิ โดยสารรถประจำทางของ บขส และได้รถ ป.2 อีกแล้วครับท่าน...

หลังจากจองตั๋วรถได้ ก็หาอะไรรองท้องกันก่อน แหม รถ ป.2 จะหวังพึงอาหารที่จอดรถมันก็กระไรอยู่นะ ซัดซะตั้งแต่หมอชิตนี่แหละ ดีที่สุดแล้ว 21.30 น. ได้เวลรถออกแล้ว

หลังจากหลับๆ ตื่น ๆ ในที่สุด 02.35 น. รถก็มาถึง ขนส่ง ชัยภูมิแล้ว เย้ๆๆๆ (อ้าวอีกตั้งนานกว่าจะเช้า ง้านนอนรอที่ บขส นี่แหละ)

ระหว่างรอเวลา ผมก็เดินปาความรู้เพิ่มเติม บรรดาพี่ๆ รถรำจ้าง กะบะเหมาคัน ก็ผลัดกันมาให้ข้อมูล ต่อรองราคา ชวนให้เหมากันไป ราคาที่เสอนกันมาก็ช่างน่าสนใจ กะบะคันละ 800 บาท หารกับคนแก่อีกคน เหลือเราแค่ 500บาท แหม ยิ่งบาดใจเข้าไปใหญ่เลย (นี่ถ้าไม่ติดใจว่า ตั้งใจจะมาใช้ชีวิตลำบาก ละก็ ไปด้วยแล้วนะเนี้ยะ)

5.30 น. ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากหลับไปได้พักใหญ่... ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว...ล้างหน้าล้างตาดีกวา เด๋วก็ได้เวลารถออกแล้ว...

05.40 น. รถเข้าท่าจอดรถแล้ว แวะไปถามคนขับซะหน่อย "พี่ครับ...รถสายผมจะไป อช.ไทรทองครับ คันนี้จอดไหมครับ"..จอดครับ

"ออก 6 โมงตรงเลยไหมครับ" ออกหกโมงกว่า ๆ ครับไม่ต้องรีบ

"พี่ครับงั้นผทเอาเป้ ไว้ไหนดีครับ ขึ้นบนรถได้เลยไหมครับ" เอาไว้ด้านหลังได้เลยครับ

...เรียบร้อยแล้ว เอากระเป้ไว้หลังรถ แล้ว หันซ้ายหันขวา...ผมไปกินกาแฟก่อนดีกว่า...เดินไปเดินมา อ้าวพี่คนขับนั่งอยู่....งั้นขอนั่งด้วยเลยแล้วกัน...


ระหว่างนั่นทานกาแฟก็พูดคุยซักถามเรื่องรถการเดินทางกับพี่เค้าอีกนิดหน่อย ได้ความว่า เด๋วรถจะไปแวะที่ตลาดบัวระเหว(ตลาดเล็ก เองนะ) จะแวะหาซื้ออะไร ก็แวะที่นั่นแหละ เพิ่มเติมด้วยได้รู้ว่า พี่คนขับรถเคยไปทำงาน ใช้ชีวิตอยู่เกาหลี ถึง 6 ปี และญีปุ่นอีก 2 ปี เรียกว่ามีประสปการณ์มาแล้วทั่วทิศ

หลังจากไปถึงนั่งรถมาถึงปากทางเขา อช.ไททอง ต้องเข้าไปอีก 9 กิโลถึงจะถึงตัวที่ทำการ...



เห็นรถอีกแต๊น ผ่านมา ก็เลยโบกรถอีแต๊น

อ๋า ได้รถชาติการใช้ชีวิตไปอีกแบบ

แถมได้ผ่านไรมันสัมปะหลังของชาวบ้าน มาส่งที่ริมหนองน้ำ

ให้ผมเดินลัดผ่านบ้านพักไปถึงที่ทำการอุทยาน โดยไม่ต้องผ่านทางหน้าทางเข้า





เดินเข้าสู่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

จัดการชำระค่ากางเต้นท์เสร็จสรรพ ก็เดินทางไปชมน้ำตกไทรทองกันต่อ...

เช้านี้ยังมีคนไม่เยอะ น้ำก็ดูจะมากกว่า เมื่อครั้งก่อน

ที่มานิดหน่อย เก็บภาพได้แป๊บเดียวเท่านั้น

อ้าวผู้คนมาจากไหนเต็มหมดแล้ว...

กลับลงมา ลานจอกรถ ที่ด่านเข้าน้ำตก

ซึ่งตอนขามาไม่มีรถเลยสักคัน

ตอนนี้มีสิบกว่าคันเข้าไปแล้ว....



เดินเล่นเรื่อย ๆ ข้ามน้ำ...หารถโบกสู่ผาพ่อเมือง ในที่สุดก็ได้ คนใจดีที่มาจากกรุงเทพเหมือนกัน...นำไปส่งที่ผาพ่อเมือง....
อ้าว นั่นพี่่ป๋อง (กบน้อย) เดินเข้ามาทัก บอกว่า...มากลับกลุ่มใน TKT เหมือนกัน หลังจากเสวนา กันพักใหญ่ เราก็แยกย้าย เดินไป ชมหน้าผา เพื่อจะไปหาที่กางเต้นท์ที่ ทุ่งบัวสวรรค์1

---ยามเย็น ชมอาทิตย์ตกที่ผาอัสดง




ระหว่างรอชมพระอาทิตย์ตก ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า เวลาแห่งการชมพระอาทิตย์ตกเป็นช่วงเเวลาแห่งการพอยามโน้มน้าวจิตใจคน อวดภูมิรู้(คาดเดาธรรมชาติ) แล้วก็ผิดพลาด แล้วก็เดาใหม่....แล้วก็ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า














จากฟ้าครึ้ม>หมอกลง>อาทิตย์เต็มดวง>แสงสุดท้าย> คนก็ยังไม่เลิกอวดรู้ผิด ๆ




ในที่สุดวันนี้ ข้าพเจ้าตระหนักถึงความอดกลั้น



แล้วท้ายที่สุดแล้ว ขาพเจ้าก็ได้..ดูอาทิตย์ลับขอบฟ้า






ค่ำคืนนี้ ข้าพเจ้าได้รับรู้มิตรภาพดีพี จากพี่ๆ คนเก่า ๆ ใน TKT ที่ ปัจจุบันมีครอบครับอยู่ที่ชัยภูมิ....พี่ต้น(นายสายลม) ถามถึงพี่ต้าและปิดท้ายด้วยพรุ่งนี้ จะพาไปส่งขึ้นรถที่ขนส่งชัยภูมิ....พรุ่งนี้้สบายแล้วมีรถออกจากอุทยาน โดยใช้เส้นทาง ซับมงคล








เช้ามาตื่นขึ้นมาหุงข้าว..ทำกับข้าวเสร็จก็ออกเดินถ่ายรูป...

จากทุ่งบัวสวรรค์ 1---ดอกบานเต็มที่แล้ว สวยมาก

ผาอาทิตย์อัสดง---หมอกฟุ้งหนา อากาศสดชื่น

ทุ่งบัวสวรรค์2---สัปดาห์หน้าคงบานเต็มที่ สีสรร กำลังสด

ผาหำหด---เช้านี้แสงสวยกว่าเมื่อวาน ถ่ายภาพเก็บไว้ดีกว่า

แนวผาพ่อเมือง---เก็บภาพสวย ๆ จนพอใจ

ทุ่งบัวสรรค์3---ปีนีน้มีดอกน้อยมาก



งั้นก็ไปต่อกันที่ ทุ่งบัวสรรค์4 ทุ่งนี้จะเป็นดอกสีขาว ดอกเล็ก ๆ แต่เป็นทุ่งที่ผมโปรดที่สุด



หลังจากนั้นเดินอีกกิโลกว่า ๆ กลับไปยังลานกางเต้นท์ทุ่ง 1

ทานมื้อเช้า อาบน้ำเก็บของกระโดดขึ้นหลังรถกระบะ...พี่ต้นพาไปแวะที่ท่ารถ ชัยภูมิ-กรุงเทพ แต่มีรถเที่ยวบ่ายสอง เหลือบดูนาฬิกา นี่เพิ่งจะเที่ยง "งั้นพี่ไปส่งที่ ที่ บขส..เพราะว่ามันจะมีรถมากว่าให้เลือก" ได้ครับ





ผมเลยกระโดดขึ้นหลังรถพี่ต้นอีกที...ก่อนกลับยังให้ Email ไว้ติดต่อเผื่อมาเที่ยว ชัยภูมิอีก.. ขอบคุณนะครับ ครั้งหน้าจะมารบกวนใหม่



ผมตัดสินใจ จับรถ ป.2 เที่ยว 12.40 นั่งรถชมวิวไปเรื่อย ๆ กว่าจะมาถึง รังสิต ก็ เกือบหกโมงเย็นแล้ว ทริปนี้ไม่ได้ไปไหนไกล แต่ก็ประทับใจ ในน้ำใจ จากหลาย ๆ ท่านที่ให้การแนะนำ ช่วยเหลือ ตลอดการเดินทาง

































สรุปค่าใช้จ่ายประจำทริปนี้ หมดไป 1,400 บาท: 2 คน

ได้แก่

ค่ารถ ปขส ป.2 คนละ 196 บาท(196 *4) รวม 784 บาท

ค่ารถ ภัคดีชุมพล -บึงสามพัน(ขึ้นจาก บขส ชัยภูมิ-ปากทางเข้าอช.ไทรทอง) คนละ 55บาท(55*2) รวม 110 บาท

ค่าอาหาร รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 บาท

(ซื้อไปทำทาน,ค่าอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารบัวสรรค์(บริเวณผาพ่อเมือง),ค่าน้ำดึ่ม (ผาพ่อเมือง ขาด1.5ลิตร ขวดละ 20บาท,ลานกางเต้นท์ทุ่ง1 ขนาด 1.5ลิตร ขวดละ 25บาท))

กระทู้รวมภาพ
http://www.jaikonjaunt.com/webboardsql/show.php?Category=roam&No=147

อัลบั้มรู)
ตากลมหนาว ชมเดือนดาว ที่ไทรทอง

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ล่องแก่งลำน้กเข็ก


ล่องแก่งลำน้กเข็ก สายน้ำสีชาและความเฮฮาตามประสาเพื่อนฝูง
ทริปสนุก ๆ ที่ชวนเพื่อน ๆ ไปเฮฮากันที่ทุ่งแสงหลวง
เป้าหมายของทริปนี้อยู่ที่ ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

นัดหมายกันไป...อาศัยพาหนะเดินทางคือรถตู้
เพื่อนรออยู่ถึงพิษณุโลกแล้ว...
หลังจากเดินทางไปถึงที่หมาย
.
.
เราเลือกใช้บริการ pop tour ในอัตราเหมาลำ 5000 บาทต่อลำ
เดินทางไปถึงจุดเริ่มต้อนล่องแก่งแล้ว สิ่งที่เราต้องทำก็คือเซ็นต์ชื่อทำประกัน



แล้วหลังจากนั้นก็ได้เวลารวมพลความฮา








การเตรียมพร้อมก่อนการล่องแก่ง
1.ชุดสำหรับล่องแก่ง เสื้อผ้ารัดกุม รองเท้ากระชับ
2.หมวก
3.ชูชีพ

staff พร้อมแล้ว แต่ลูกเรือยังไม่พร้อม
เราต้องมาเรียนรู้วิธีการปฏิบัติตัว ขณะอยู่บนเรือและขณะผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ
ตำแหน่งที่นั่ง และการทำงานร่วมกันเป็นทีม


กำลังพลแบ่งเป็น 3 ลำเรือ
แยกย้ายสร้างความเฮฮากัน












ลำที่ 1 ลำสีแดง มีพี่แดนนี่ดูแลสาวๆ


ลำที่ 2 สีเหลือง พี่เก่ง เป็นกัปตันใหญ่ ที่แยกย้ายสลับบงการ ลำเหลืองลำเขียว





ชายนัย...กัปตันทำหน้าที่สลับลำกับเก่ง
เชียวขาญเรื่องมุมกล้อง มากเมื่อได้มาอยู่ลำเขียวกับเราแล้ว ทำให้เราไม่พลาดช๊อตเด็ดๆ ในทุ่งแก่งที่ล่องผ่านไป
ลำที่3 ลำเขียว...มีชายนัยทำหน้าที่ค้นหามุมกล้องตลอดสายน้ำ
แต่ละแก่งที่ผ่านไปเราไม่พลาดช๊อตเด็ดช๊อตไหนแน่นอน
*
*
*
*
*
*
*

เสร็จจากภารกิจล่องแก่งลำน้ำเข็กแล้ว บ่ายวันนั้นเราก็ไปทานข้าวเที่ยงกันที่แก่งซอง...
แล้วก็แวะถ่ายน้ำตกปอย น้ำตกแก่งโสภาแล้วก็กลับมาเฮฮากันที่บ้านพัก
วันรุ่งขึ้น เรามุงไปเขาค้อ...ซึ่งเปลี่ยนแผนจากเป้าหมายเดิมไปคนละทางกันเลย
แต่ก็คุ้มค่าที่มาถึง
แน่นอนกำหนดการบ่ายนี้ของเรา ยังคงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่ ที่วัดศรีรัตนมหาวรวิหาร
ถือว่าเป็นการเสร็จภารกิจ ..ทริปนี้
เพิ่มเติมข้อมูลภาพและบรรยากาศการเดินทางครั้งนี้ได้ที่

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

13Apr2009 Kota Kinabalu เดินทางสุดยอดคินาบาลู

หลังจากที่เราท่องเมืองราชการของมาเลเซีย จนพอใจ(เหงือโชก)แล้ว
บ่าย ๆ เรารีบกลับไปที่พัก เพื่อเก็บกระเป๋า รีบมาขึ้นเครื่องที่นามบิน
15.00 น. เดินางไป LCCT เพื่อขึ้นเครื่องไปคินาบาลู
ถึงคินาบาลุ ซะดึกเลย...ทำไงดีกว่า...งั้น taxi ไปส่งที่ Borneo Global Backpacker หน่อยสิ ง่วงแล้ว เหนื่อยด้วย จะพักผ่อน พรุ่งนี้ จะต้องไปขึ้ยอดคินาบาลูอีก
หกโมงเช้า....ทานขนมปัง กับกาแฟ เป็นมื้อเช้า
ขนมปัง ฟาร์มเฮาร์ บ้านเรายังนิ่มกว่า....ทาด้วยแยม อบพอไหม้..
กาแฟ เป็นกาแฟกรอง แบบกาแฟโบราณ บ้านเรานะ ไม่มีนม ให้อะ..
อาน่าเพื่อปากท้อง....

07.00 น. ออกเดินทางจากที่พัก ไปคินาบาลูกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงที่ทำการอุทยาน จัดการเรื่อง ค่าธรรมเนียมรับทราบกติกาต่าง ๆ เตรียมเดินทางขึ้น...
กว่าจะพร้อมเดินทาง ก็ 10 โมงกว่าแล้ว
หลังจากเราเดินเตร็จเตร่ถ่ายรูปไปเรื่อย....ระหว่างเดินขึ้นมีเรื่องหนึ่งอยากบอก ...คือหวานไม่สบาย เป็น ไซนัสอักเสบ(หมอแนะนำให้ผ่า) เจ้าตัวห่วงเที่ยว ขอรักษาเองด้วยการฉีดน้ำเกลือล้างจมูก...
ด้วยความกลัวเป็นภาระ หวานเลยเดินนำลิ่ว...ขึ้นถึงที่พักเป็นคนแรก...แบบที่เรียกว่า ไม่มีใครเห็นหวานตั้งแต่ กม. 3 แล้ว นุ๊กนิคยังแซว "พี่ไท นี่หวานมันไม่สบายใช่ไหม... มันไม่เห็นใจคนปกติบ้างเลยนะ"
เพราะว่า คนปกติ เดินกัน ขาลาก กว่าจะขึ้นถึงคนสุดท้าย ของชุดเราก็ 19.00 น. แต่ว่าหวานมันถึงมาตั้งแต่ สี่โมงกว่า ๆ ขนาดว่าผมจ้ำอ้าวเต็มที่ด้วยความเป็นห่วงยังตามไม่ทัน...น่าสงสารมันนะ

เราทานมื้อเย็นกันอย่างเต็มที่ เพราะเป็นบุฟเฟ่อะ กินเท่าไหร่จ่ายเท่าเดิม หม่ำๆๆๆๆ
หลังจากอิ่ม เราก็แยกย้ายกันไป พักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ 02.00 น. ทุกคนต้องพร้อมเดินขึ้นยอด south peak เพื่อพิชิตยอดเขาสูงสุดของเอชีย

รูปอื่น ๆอีกเพียบ

kota_kinabalu

12Apr2009 ปุตราจายา

วันที่สอง ของการเดินทาง



วันนี้เราท่องเมืองราชการของมาเลเซีย



ชื่อเมืองคือปุตราจายา(Putrajaya)



การเดินทางวันนี้ เราอาศัย รถไฟมาเล...



หน้าตาของตั๋วรถไฟเป็นแบบนี้




บรรยากาศในรถไฟก็เป็นแบบนี้...ต่างกับบ้านเราเน๊าะ



ลงจากรถไฟแล้ว...เรายังต้องไปต่อรถเมย์เข้าเมือง ปุตราจายา อีกสายครับ



ภายในปุตราจายา ร่มรื่น สะอาดมาก
อาคารราชการ ออกแบสวยหรู




สะพานเชื่อม ก็ชวนหลงไหลในศิลปะ
ที่สวยงามสะดุดตา ชวนให้นักท่องเที่ยวมาชม เห็นจะได้แก่...มัสยิด สีชมพู





มาครั้งนี้ประทับใจมาก


รูปอื่นๆ ที่ประทับใจ จากครั้งนี้

Putrajaya