วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ซื้อความลำบาก

มนุษย์เดินเดินกินข้าวแกง แก่งแย่งทำงาน
แต่ละวันๆ ผ่านไปกับการใช้ชีวิตในออฟฟิสมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต..ใช้เวลาแลกเงิน..


ใช้เงินซื้อความสะดวกสบาย ใช้จ่ายสิ่งของจำเป็น ที่สังคมลงความเห็นกันว่า...
ต้องมีให้เหมาะสมฐานะ ต้องใช้จ่ายให้เป็นหน้าเป็นตา ต้องพกพา Brand name เข้าสังคม ปั้นหน้า ดัดกริยา ไม่ให้ใครว่าได้...

ส่วนหนึ่งของมนุษย์เงินเดิน ที่ต้องใช้ความอดทน ความฝันในการปั่นงาน ทั้งวัน เพื่อเจียดเงินที่เหลือ ซื้อความลำบากใส่ตัว...
คนกลุ่มนี้ คือบรรดาเราๆ ท่านๆ ที่ สุดสัปดาห์ อยู่ติดเมือง นั่งรถไฟฟ้า ใส่เสื้อผ้าหรูๆ อยู่ในเมืองกันไม่ได้..
เพราะความรู้สึกภายใน มันเรียกร้องให้ออกไปสู่โลกกว้าง...

จึงต้องค้นหา จึงต้องเดินทาง  นั่งรถหลังขดหลังแข็ง...ออกต่างจังหวัด
อัดกันอยู่ท้ายรถกะบะ ตากแดดร้อน  หลังคอนไว้ด้วยเป้หนักๆ จุดหมายไม่ใช่เพื่อได้พัก แต่เพื่อได้ไปต่อ
รอสุดเส้นทาง พาหนะจะพาไปได้...คือจุดเริ่มต้นการเดินเท้า ปีนป่าย เพื่อจะไปให้ไกลขึ้น
ได้ยืนบนก้อนหินริมผา รับลมเย็นๆ ก็เป็นสุขใจ

ฟูจิ ซูชิ ซิสเลอร์ KFC ราเม็งดีๆ ไม่ใช่อาหารที่ต้องการในมื้อนี้...
เพียงแค่มี ข้าวสวยร้อนๆ จากหม้อสนาม..นั้งล้อมวงกับเพื่อนร่วมทาง..ซึ่งไม่อยากจำว่าเป็นไครทำงานอะไร ตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตแค่ไหน  แค่เพื่อนร่วมทาง นั่งบนขอนไม้ ต้นหญ้า หรือจะกราวชี๊ตที่ขนาดผืนเพียงนิดจนนั่งกันไม่พอ..แค่นี้ก็อบอุ่นในหัวใจ...

เสียงเพลงที่เคยเพราะ ละครที่กำลังฮิต..เวลานี้ไม่มีสิทธิ์จะกวนใจ...ค่ำคืนไร้แสงสี..มีเพียงแสงริบหรี่จากกองไฟที่ปะทุวับแวมเป็นบางคราว... ขับกล่อมด้วยจักกะจั่นเรไร สลับไปกับหยาดน้ำ้ค้างร่วงจากใบไม้ ยจามต้องสายลมหนาว

ชุดนอนตัวโปรด....เตียงนุ่มๆ ผ้านวมหนาๆ ก็ขอลากันก่อนชั่วคราวคืนนี้เราขอหมักหมมอยู่ในชุดที่เดินป่ามาทั้งวัน...ชื่นไอน้ำกับกลิ่นเหงื่อ.. เจอด้วยกลิ่นควันไฟ... คืนนี้คงหลังสนิท
พรุ่งนี้ทางจะชันมาก หรือจะลำบากอีกแค่ไหน ไม่อาทร...

ฟ้าอาจไม่เปิด วิวสวยๆ อาจจะไม่ได้เห็น ดอกไม้อาจไม่บาน...อาหารอาจไม่อร่อย  สิ่งที่คอยอยู่มีความเป็นไปได้แค่ความลำบากทางกาย...แต่ไม่ได้เสียใจเพราะการคาดหวัง มีแต่ความมุ่งหวังจะเดินหน้า เสาะหาความลำบากต่อไป...เพียงเพราะทุกครั้งที่ออกเดินไป มีความประทับใจ ความรู้สึกดีๆ และหลายๆ อย่างที่ได้เรียนรู้ มากกว่าอยู่สบายๆ อยู่ในเมือง....
Phoenix(13/3/2012)

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทริปปลดหนี้#2 นอนแพไทรโยค

ออกจาก กรุงเทพ เมืองฟ้า จะปาไปบ้านทุ่ง ไปดู ฟักข้าว พื้ชที่ถ้าสาวๆ รู้สรรพคุณแล้วตาโตแน่นอน ก็อุดมไปด้วย แบตาแคโรทีน และไลโคฟืน

แวะกินขนมจีนน้ำยา(ปลาช่อน)
ที่บ้านศิษย์น้อง ที่นครชัยศรี...(คุยกันมาหล
ายปีจะได้เจอหน้ากันซะที)

แนะนำสมาชิก แล้วก็ ย้ายสมาชิกบางส่วนมานั่งรถไกับศิษย์น้องด้วย (เด๋วขับรถคนเดียวจะเหงา)
แวะชมไร่ฟักข้าวที่ นครปฐม
สวนฟักข้าว เลยแยกบ้านแพ้วประมาณ 1 km เลี้ยวซ้ายทางไปทางศูนย์ราชการ 200 เมตร
ต้นหาในเว็บได้ข้อมูลแค่นี้แหละ (เด่วขอติดต่อประสานงานอีกทีนะ)

เผื่อใครอยากดูเกี่ยวกับฟักข้าว http://www.youtube.com/watch?v=EbW69-VzBQ8

ถึงกาญจน์ หาซื้อของสด ไปทำกินกันที่แพ เข้าอช..ลงแพ ให้เค้าลากไปไว้ไกลผู้ไกลคน
จะได้มีมีคนร้องให้กลับ หรืออยากเพิ่มเมนูตอนดึก

ช่วยกันทำอาหาร เฮฮาหัวราน้ำ

สายๆ ออกจากแพ ไปเดินถ้ำ แล้วก็แช่น้พุร้อนหินตาด

เดินทางกลับ ...แวะหาขนมอย่อยๆ ที่องค์ปฐมเจดีย์

ค่าใช้จ่ายทริปนี้..หารเฉลี่ย ตลอดทริปครับ











 

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทริปปลดหนี้#1 ปาย..ปางอุ๋ง @หมู่บ้านสันติชน




มื้อเช้ามื้อเที่ยงรวบไปเป็นข้าวขาหมูที่หมู่บ้านสันติชน เลยแล้วกัน

ถึงหมู่บ้านสันติชน..เป้าหมายแรกบุกตะลุยส่วนของร้านอาหารกันก่อนเลย
เมนูไม่ต้องแนะนำเพราะสมาชิกแต่ละคนหิวโหยกันได้ที่ เพราะเวลาตอนนี้ก็เที่ยงตรง
ต้มขขาหมู่ หมั่นโถ หมี่นโถทอด ไก่ผัดสมุนไพร ปลาทับทิมนึ่งยัดไปอย่างให้เหลือ
ว่องไวยิ่งกว่าไฟไหม้...อาหารทั้งหมดเกลี้ยงฉาดอย่างว่องไว...ยกเว้นต้มเปรี้ยว...ที่สมาชิกลงความเห็นว่ามะได้เปรี้ยว..เลยไม่มีคนเหลียวแล...
ตามสบาย..ให้เวลา 1ชั่วโมง

อิ่มท้องแล้วก็พาไปอิ่มบุญกันต่อ..ขอนำท่านตัดมาที่วัดน้ำฮู้...วัดนี้เป็นวัดดังของปาย ใครไปใครมาก็ต้องแวะมาไหว้พระทันใจ พระประธานประจำโบสถ์

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทริปปลดหนี้#1 ปาย..ปางอุ๋ง @ห้วยน้ำดัง


ทริปปลดหนี้#1 ปาย..ปางอุ๋ง

หลลายคนคงสงสัยว่า..ทำไมทริปนี้จึงไม่มีการเปิดเพลง เปิดหนัง อีกทั้งยังไม่มีการแนะนำตัวสมาชิกอีก...

สาเหตุมันมีที่มาครับ ไม่ใช่เพราะว่าหลงลืม แต่เป็นเพราะความใส่ใจและความไม่ใส่ใจในแบบของผมเอง



เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ในทริปนี้...เรียกว่าทั้งหมดก็ได้มั่ง เพราะนอกจากผมและหวาน(ที่ลากตัวมาช่วยจัดการเรื่องรถตู้และอาหาร)คนอื่นๆไม่เคยเดินป่า และไม่เคยออกทริป อีกทั้งยังไม่เคยไปด้วยกันเลย...จึงคิดว่าไม่ต้องแนะนำตัวดีกว่า ปล่อยให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง ทำความรู้จักกันเอง

และไม่ต้องการให้เวลาในการดูหนัง หรือฟังเพลงมาบดบังโอกาสที่จะได้ชื่นชมกับธรรมชาติสองข้างทาง ใครจะขัดใจไปบ้างก็ช่างละ

ที่เรียกทริปนี้ว่าเป็นทริปปลดหนี้...เพราะว่าค้างสัญญากับสมาชิกคนหนึ่งของทริป เรียกว่าทริปนี้จัดขึ้นมาเพราะว่าสมาชิกคนนี้แหละโดยเฉพาะ...ก็เพราะเป็นสัญญาที่ยาวนานและการทวงกันต่อเนื่องตลอดจตุปี จนปีนี้เพิ่งจะได้โอกาสจัดการให้แล้วเสร็จ...

ทริปนี้ทะลักทุเล ด้วยการจัด Event  facebook แบบปิด ก็ไม่คิดว่าสมาชิกที่บอกว่าจะไปด้วย จะติดภาระอย่างอื่นกระทันหัน ไปกันไม่ได้ซะครึ่งหนึ่ง...เหลือสมาชิกเดินทางจริงๆ แค่ 5 เอาละสิ ทริปนี้จะสู้ค่ารรถกันไหวไหม...
คำนวนโน่น นี่นั่น ค่ารถ+ค่าน้ำมันก็ปาเข้าไปร่วม 16,000 บาทเข้าไปแล้ว  นี่ยังมีค่ากินค่าที่พักอีก..จะหมดกันคนละกี่เงินละนี่...
ยังดีที่ นอกจาก 5 คนที่ว่า ยังมีพงษ์ มาช่วยหารค่ารถอีกสองวัน เพราะจะแยกตัวกลับในบ่ายวันอาทิตย์
....
...
หลังจากพยายามชวนคนโน่นคนนี้ ประมวลข่าวสถานะการณ์รายวัน ที่หวันๆ เพราะเชียงใหม่ฝนตกยาวมาเป็นสัปดาห์แล้ว...
ในที่สุดก่อนวันเดินทางฝนยังตกอยู่  พญาเสือโคร่ง..ทุกจุด โรยหมดแล้ว...(โปรแกรมแวะล่าเสือเรางดไป)
ข่าวดีเริ่มมีมา...สมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 1 คน นอกจากนั้นยังมี...อีกสองคนที่ขอติดอาศัยรถไปลงปายช่วยหารค่าน้ำมันได้อีกส่วนหนึ่ง...เย่ๆ ความหวัง 3,500 บาทต่อหัว เริ่มริบหรี่(จากที่เป็นไปไม่ได้)

ท้ายที่สุดวันเดินทาง...ขลุกขลักอีกแล้ว เมื่อผมไม่สามารถเดินทางไปยังจุดนัดหมาย Big C สะพานควายได้ ต้องวานให้ผู้อาศัยติดรถไปปาย( Nu_VEE และRainbow ช่วยเก็บเพื่อนมือใหม่ที่ยังไม่เคยเดินทางขึ้นรถหน่อย...
หลังจากโดนน้องก่นด่าพองาม (ตามความสนิท) และเพื่อนโวยวายที่เราไม่ไปตามนัด...เออท้ายที่สุดมันก็ประสานงานกันขึ้นรถได้ละวะ...

รถมาถึงก็ส่งเป้และของใช้...จำเป็นในทริปนี้(ที่ช้าก็เพราะจัดการของพวกนี้อยู่นั่นแหละ หม้อสุกี้ แก๊ส ตะเกียงพร้อม..
เป้าหมายต่อไป รับพงษ์ ที่ ตรงข้ามรังสิต เห็นสภาพการยืนรอแล้วก็น่าเห็นใจ ก็คนไม่เคยไปไหนมาตรงเวลา ก็เน๊าะรอนานหน่อย(ขอโทษคับผมผิดเอง)

lotus บางปะอิน รับเบียร์ แล้วก็ต่อด้วยเข้าไปเก็บเพื่อนใหม่อีกคนจากที่บ้าน
สมาชิกเราก็ครบละได้เวลาเดินทาง....