วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แดนฉิมพลีที่ภูเมี่ยง



แดนฉิมพลีที่ภูเมี่ยง
ทริปเฮฮา สารพัน เพื่อนกันเอามันส์ไว้ก่อน...
หารเฉลี่ยค่าทริป แต่แพงลิบค่าเครื่องดื่ม...

ไม่มีอะไรมาก เป็นทริปที่ใครๆ ก็อยากไป ยกเว้น "ตั๊ก พิโลก" ที่บอกชัดเจนว่า "ขอรออยู่ตืนภูนะเพื่อน"

"๑๐ ภูกระดึง ไม่เท่า ๑ ภูเมี่ยง" เสียงของวัต บอกมามา ขณะที่ จัดเสื้อภาพเตรียมขึ้นภู ทำเอานุ๊กหน้าสลด
นุ๊กบอกว่า"เพื่อนชวนไป ภูกระดึง นุ๊กไม่กล้าไปกลัวเดินไม่ไหว แต่ขวัญชวนมาเดินภูเมี่ยง...นุ๊กมาเพราะไม่รู้ว่าภูเมี่ยงเป็นอย่างไร"
น้องใหม่เปิดทริปเดินป่าครั้งแรกที่ภูเมี่ยง ภูที่หลายคนเปลี่ยนคำเรียกเป็น ภูเดี้ยง แล้วเพื่อนจะเป็นพี่เลี้ยงได้ตลอดทริปไหม

ขบวนบันเทิงในทริปนี้ คือ 107 โบกี้ 8 เส้นทาง กรุงเทพ-เด่นชัย กำหนดการ รถออกสองทุ่มสิบ นาที สมาชิกที่จะไปด้วย
สถานีหัวลำโพง พงกับวัติ มัวแต่ทำไรกันอยู่ไม่รู้ รถไฟถึงออก เกือบสามทุ่ม
สถานีบางซื่อ ตั้มกับเพื่อนและกิต
สถานีดอนเมือง ตามกำหนดการ นู๋ขวัญ นุ๊ก ตาเจ หวาน ไท พี่เป้ แต่ เฮ้... ขณะนี้ สองทุ่มครึ่ง เวลานัดหมาย
** "ไทอยู่ไหนครับ ผมถึงสถานีรถไฟดอนเมืองแล้วนะครับ.."เสียงจากลำโพงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นมา ขณะกำลังยืนดูเม็ดฝนอยู่บนสะพานลอย
"ผมอยู่ สน.ดอน อีกป้ายก็จะถึงครับ ตอนนี้ติดฝนอยู่บนสะพานลอย กำลังพยายามหาทางลัดไปครับ"กรอกเสียงแข่งกับลมฝน ผ่านไมค์โทรศัพท์ เพื่อบอกความคืบหน้า หลังจากนั้นก็ ฝ่าสายฝน เลาะขอบข้างร้านค้าริมทางรถไฟ จนถึงสถานี ว่าไปก็พอดีงสถานี ก็เปียกโชก...
ลงสะพานลอย..เห็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่ริมทาง ข้างๆ มีเป้ใบใหญ่เหมือนเตรียมออกทริปที่ไหน ผมจึงทักไปว่าใช่พี่เป้ไหม..."ไม่ใช่ครับ คุณหาใครเหรอครับ" "ขอโทษครับ นึกว่าเพื่อนที่จะออกทริปเดินป่าด้วยกัน" เห็นว่าหน้าตาดีดี มีบุคลิก ที่ไหนได้ใครก็ไม่รู้ ก็ไม่เป็นไรครับ ขอโทษกันไป แล้วก็โทรถามดีกว่าว่าพี่เป้อยู่ไหน..
สรุปพี่เป้รออยู่ แถว ๆ หน้าห้องน้ำ อย่างนั้นเดี๋ยวผมไปหา คราวนี้เจอละ ผู้ชาย สูง ผิวขาว ใส่แว่น ตรงกับที่พงษ์บอกมาทุกประการ (ก็ตรงกับบุคลิกคนที่ทักก่อนหน้านั้นด้วยแหละ) "พี่เป้ใช่ไหมครับ" ผมรีบทักไปก่อนจะถึงตัว.."ใช่ครับ" โล่งครับเจอกันแล้ว แล้วคนอื่นๆ ละ ยังไม่มีใครมาเลย หวานกำลังรอฝนซาหน่อย ตอนนนี้ยังไม่ออกจากบ้าน ส่วนขวัญรอเพื่อนอยู่...
คุยทำความรู้จักเบื้องต้น ได้ความว่า พี่เป้ใบใหญ่ ชื่อเล่นว่าพี่หนึ่ง แต่ตลอดทริปเราก็เรียกสลับกันไปทั้งสองชื่อ ซึ่งก็เป็นปกติของการออกทริปกับเพื่อนใหม่ใน TKT ซะแล้วที่นิยมเรียกชื่อ login กันมากว่า รอหวานมาอีกคน ก็หาอะไรทานรองท้อง เพราะรถไปเพิ่งจะออกจากหัวลำโพงเอง...กระทั่งรถไฟมา ขวัญกับเพื่อนก็ยังมาไม่ถึงเมื่อเราขึ้นรถไฟ ได้เจอกับพงษ์วัติและเพื่อนๆ ที่ขึ้นมาจากสถานีก่อนหน้าครบแล้ว ก็ได้เวลาสอบถามหาสมาชิกที่จะขึ้นสถานีดอนเมืองแล้ว พงษ์โทรไปถามขวัญ ได้ความว่า เห็นรถขบวนนั้นออกจากสถานีไป...โถ มาถึงสถานีแล้วก็ไม่รีบบอกันซะก่อน... ส่วนพี่เจ วัติบอกว่า เจ้าตัวยังมาไม่ถึง... เอาแล้วไง ทริปนี้ สมาชิกสามราย ตกรถไฟ..
ระหว่างนั่งรถไฟ เราไม่มีอะไรสามารถทำได้ดีไปกว่าหาเรื่องคุยคั่นเวลา และเร่งเพื่อน ให้รีบมาดักสถานีในสถานีหนึ่งข้างหน้า ให้ทัน...นั่งคุยสังสรร กันไป เบียร์อุ่นๆ น้ำเข็งก็ไม่มี จิบกันไปเรื่อยๆ คนนั้นที คนนี้อึก ที่ไหนได้ หายไปครึ่งถาดแล้ว... พงษ์ชักทนไม่ไหว"วัติไปซื้อ น้ำแข็งมาถุงสิ" วัติหายไปพักใหญ่ เดินเซตามแรงกระชากของรถไปกลับมา บอกว่า เขาไม่ขาย "ขายสิ.. ทำไมจะไม่ขาย เด๋วดู "พงษ์ออกอาการขัดใจ เพราะเบียร์ไม่เย็น เดินไปตู้เสบียง สั่งซื้อยำแหนม มาจานหนึ่งแล้วหิ้วน้ำแข็งกลับมาสองถุง... โอ้!!! เยี่ยมมาก เราได้จิบเบียร์ใส่น้ำแข็งกันแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเบียร์จะเย็นนั้นเหรอ มันเย็นไม่ทันหรอกครับ แต่ดีกว่า ที่ไม่มีน้ำแข็งละ สักพักพงษ์บอกให้วัติไปรับยำแหนมที่สั่งไว้ มากินเป็นกับแกล้มกันหน่อย
แล้วเบียร์อีกครึ่งถาดก็หมดไปอย่างว่องไว.. ดูเวลาที่ไหนได้ ตี 2 แล้ว เราคุยกันเพลินไปรึเปล่า แยกย้ายพักผ่อนดีกว่า พงษ์โชว์ทักษะ ไปเวนคืนที่นั่งที่เราจอง มานอนได้อีกหนึ่งที่...

สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที..เกือบเช้า เฮ้ยนี่เราเลยป้ายหรือเปล่า .. ด้วยความกังวง ทุกคนเลยตื่นขึ้นมาช่วยดู สรุปเรายังไม่ถุงป้าย แต่ใกล้ถึงละ อ้าวแล้วทำไมต้องตะลึงกันขนาดนั้นด้วยละ ..ก็...เวลามันช้ากว่ากำหนดการณ์ ร่วมชั่วโมงแล้วครับ ก็ต้องสะดุ้งกันบ้าง
ถึงที่หมาย ถ่ายรูปเล่นๆ กันนิดหน่อย
พบตาเจ และสองสาว กับพี่เจ้าหน้าที่ที่มารอรับ...จัดของเสร็จเรียบร้อยขึ้นรถไปหน่วยกันเลย ดูๆ ไปก็แปลกๆ นะ เป้ ยัดใส่หลังแคปรถพี่เจ แต่คนมาเบียดกันอยู่ท้ายรถเจ้าหน้าที่ ที่ไม่มีหลังคา มีแต่พี่เป้ กับหวาน ที่ไปนั่งเป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่ พอแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทาง เราก็..กระโดดไปนั่งหน้า รักษาความสมดุลซะหน่อย..

ไม่มีความคิดเห็น: